วันนี้ 19 มี.ค.2567 เวลา 05.00 น.

    ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.เลย, พ.ต.ท.จตุพล ยันต์นาวา รอง ผกก.ตม.จว.เลย, ว่าที่ พ.ต.ท.โสภณ ศิลารัตน์ สว.ตม.จว.เลย สั่งการให้ ร.ต.อ.เด่นชัย สมสวย รอง สว.รอง สว.ตม.จว.เลย พร้อมชุดปฏิบัติการสืบสวน 2 ออกตรวจสอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ในพื้นที่รับผิดชอบ ผลการปฏิบัติดังนี้ 

1.จับกุมตัวผู้ต้องหา 

   1.1 นางปนัดดา กุลเสนา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.1 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย

   1.2 น.ส.เย็นรี่ เทพรักษ์  อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.5 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย

2.ของกลาง / ตำแหน่งที่พบของกลาง 

   2.1 ยาบ้า จำนวน 1,423 เม็ด แบ่งเป็นยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 1,412 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 11 เม็ด

   2.2 โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo รุ่น a17k จำนวน 1 เครื่อง

   2.3 โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo รุ่น a12k จำนวน 1 เครื่อง

   2.4 รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีดำ-แดง จำนวน 1 คัน

   2.5 กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ

3.ฐานความผิด 

   ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าหรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

4.เหตุเกิดเมื่อ 19 มี.ค.2567 เวลา 05.00 น.

5.เหตุเกิดที่ หน้าตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ทางเข้าบ้านห้วยพิชัย ม.1 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย

6.พฤติการณ์ย่อ : เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนาม ว่าจะมีการนัดส่งยาเสพติดที่บริเวณริมถนนเส้นปากชม-ห้วยพิชัย ใกล้กับผู้เดิมน้ำมันหยอดเหรียญ เขดท้องที่บ้านห้วยพิชัย ม.1 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนในเส้นทางใกล้เคียงกับจุดที่ได้รับแจ้ง ต่อมาตามวันเวลาจับกุม พบนางสาวเย็นรี่ เทพรักษ์ อายุ 43 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) ผู้ต้องหาที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนด์ขี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กรพ 233 เลย และนางปนัดดา กุลเสนา อายุ 50 ปี มีลักษณะท่าทางมีพิรุธนำสงสัย น่าจะมีสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด เช้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อผู้ต้องหารายที่ 1 เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จึงพยายามจะวิ่งหลบหนีและได้โยนยาเสพติดของกลางทิ้งลงพื้น ภายหลังที่ถูกควบคุมตัวเข้าหน้าที่ได้ขอทำการดรวจค้นตัว ผลการตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 1,423 เม็ด แบ่งเป็นยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 1,412 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 11 เม็ด ส่วนผู้ต้องหารายที่ 2 ผลการดรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพว่ายาบัาของกลางที่ตรวจคันพบเป็นของตนจริง โดยเอาไว้แบ่งขายให้กับลูกค้าในราคาเม็ดละประมาณ 20 บาท วิธีการจำหน่ายจะนำยาบ้ามาแบ่งใส่หลอดแล้วใช้ไฟลนปิด เพื่อง่ายต่อการจำหน่าย โดยจะ

แบ่งไว้เป็น 1 เม็ด, 2 เม็ดและ 5 เม็ด ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ให้การว่าตนมีหน้าที่ขับรถ และทราบดีว่าจะมารับยาเสพติดเพื่อนำไปขาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาที่ สภ.ปากชม และได้ขอทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้น โดยผู้ต้องหายินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะด้วยความสมัครใจ พบผลเป็นลบ จึงได้ส่งตัวอย่างปัสสาวะที่เหลือไปตรวจที่ รพ.ปากชม ปรากฏผลการตรวจเป็นลบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าหรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน" พร้อมได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบจนเข้าใจดีแล้ว ผู้ต้องหาเข้าใจพฤติการณ์ในการกระทำความผิด

และข้อกล่าวหาโดยดีตลอดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ปากชม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ